ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่จัดเก็บเครื่องมือใน Windows 10 ช่วยให้คุณปลอดภัยในการจัดการชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรไฟล์ของคุณ ช่วยให้คุณป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่บันทึกไว้โดยอัตโนมัติสำหรับทรัพยากรเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์เว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆเพื่อตรวจสอบตัวเอง ในโพสต์นี้เราจะดูวิธีการเพิ่มลบแก้ไขสำรองกู้คืนชื่อผู้ใช้ที่เก็บไว้และรหัสผ่านและข้อมูลรับรองใน Windows 10/8/7
ค้นหาชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่เก็บไว้ใน Windows 10
หากต้องการเข้าถึงแอพเพล็ตStored User Names และ Passwords Control Panel โดยตรงผ่านเมนู WinX ให้เปิด Command Prompt (Admin) พิมพ์คำสั่ง rundll32 ต่อไปนี้แล้วกด Enter:
rundll32.exe keymgr.dll, KRShowKeyMgr
กล่องชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่เก็บไว้จะเปิดขึ้น
ที่นี่คุณจะสามารถเห็นรหัสผ่านและชื่อผู้ใช้ที่บันทึกไว้
ในการเพิ่มข้อมูลรับรองใหม่ให้กดปุ่มเพิ่มและกรอกรายละเอียดที่จำเป็นดังต่อไปนี้:
ในการลบรหัสผ่านที่บันทึกไว้ให้เลือกข้อมูลรับรองและคลิกที่ปุ่มลบ
หากต้องการแก้ไขรหัสผ่านให้คลิกปุ่มแก้ไข ที่นี่คุณจะแก้ไขรายละเอียด
อาจเป็นข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ Windows หรือรหัสผ่านของเว็บไซต์หรือโปรแกรม
ควรสำรองข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่จัดเก็บไว้เสมอ ทำได้โดยคลิกที่ปุ่มสำรองเพื่อเปิดวิซาร์ดต่อไปนี้
เลือกและเรียกดูตำแหน่งสำรองคลิกถัดไปและทำตามวิซาร์ดจนเสร็จสิ้น
หากจำเป็นคุณสามารถกู้คืนข้อมูลสำรองได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ปุ่มกู้คืนและเรียกดูตำแหน่งไฟล์สำรองและเลือก
แค่นั้นแหละ!
เคล็ดลับ : อ่านเกี่ยวกับ Credentials Manager และ Windows Vault ที่นี่
PS : โพสต์นี้จะแสดงวิธีจัดการรหัสผ่านใน Internet Explorer แม้ว่าคุณจะสามารถเพิ่มสำรองข้อมูลเรียกคืนข้อมูลประจำตัวของ Windows ได้ แต่ก็ไม่มีวิธีใดในการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลประจำตัวของเว็บ เมื่อเร็ว ๆ นี้ Microsoft ได้แจกแจงการเปลี่ยนแปลงที่รวมอยู่ในนโยบายรหัสผ่านและแบบฟอร์มการเติมข้อความอัตโนมัติใน Internet Explorer เพื่อลดความสับสนในผู้ใช้เกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกเรียกคืนในไซต์หนึ่ง แต่ไม่ใช่อีกไซต์หนึ่ง ตรวจสอบโพสต์นี้เพื่อดูว่า Internet Explorer 11 เก็บรหัสผ่านอย่างไร